ช่องนนทรี



                                       ช่องนนทรี ช่องประวัติศาสตร์

          ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเรื่องย้อนรอยถิ่นเก่าของกรุงเทพบ้างครับ ถ้าไม่เอามาเล่าเดี๋ยวก็ลืม ที่เล่าเพื่อใครๆก็จะได้รู้ ถึงจะมีคนรู้อยู่แล้ว ถ้าแต่ไม่เขียน ไม่เล่า ก็ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นจึงเล่าดีกว่า เล่าไปตามที่ตัวผมเองเคยรู้ เคยเห็นก็แล้วกัน
ย่านถิ่นเก่าของกรุงเทพที่ผมตั้งใจเล่านั้นคือ ช่องนนทรี ในเขตคลองเตยครับ อยู่ใกล้ๆแค่ สาธร สีลม Wall Street ของเมืองไทยเพียงแค่นิดเดียว ช่องนนทรี มีเรื่องที่โลดแล่น นึกไม่ถึง ไม่แพ้ถิ่นอื่นๆเหมือนกัน



          คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่โบราณก่อน มีบันทึกของฝรั่งที่แล่นเรือจากปากอ่าว มุ่งหน้าไปอยุธยานั้น บอกว่าสองข้างริมแม่น้ำแถบบางกอก ไปถึงอยุธยา มีแต่ต้นไม้หนาทึบ ไม่ค่อยเห็นคน ผมลองสร้างจินตนาการตามสมัยฝรั่งพูด ถ้าอยู่ในเรือที่กำลังล่องอยู่กลางน้ำนิ่งสงบวังเวง ริมแม่น้ำมีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่นมืดคลึ้ม แล้วเห็นคนผลุบๆโผล่ๆจากพุ่มต้นไม้ ไม่เป็นคนป่า ก็ผีนั่นแหละ ผมมีจินตนาการอย่างนั้น
ยังมีฝรั่งที่มาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็บอกว่า ก็เคยบอกว่า มีต้นไม้หนาแน่นทึบ คงมีคนอยู่บ้าง อันนี้ผมว่านะครับ ปรกติถึงจะไม่เห็นคน แต่ถ้าเห็นมี ต้นมะพร้าว ต้นหมาก ต้นกล้วย มะม่วง ก็ต้องมีคนแน่ๆ ก็เป็นต้นไม้สำหรับคนปลูกไว้กินครับ  
          เอาเป็นว่าเป็นป่าแน่นด้วยต้นไม้แล้วกัน ทีนี้มาถึงประวัติศาสตร์ไทยยุคกลางรัตนโกสินทร์บ้าง เมื่อ ร.ศ.130 หรือปี 2455 มีเหตุการณ์ใหญ่ของบ้านเมือง ที่กล่าวอ้างว่ามีขบถครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์ คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขบวนของการขบถในครั้งนั้นมี ร.อ.เหล็ง ศรีจันทร์ และน้องชาย ร.ต. เหรียญ ศรีจันทร์ และมีเพื่อนทหารร่วมขบวนการอีกหลายคน มูลเหตุที่จะปฎิวัตินั้น เพราะอยากจะให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ที่จริงของสาเหตุนั้นก็มาจากที่มีการกระทบกระทั่งทะเลาะวิวาทขนาดลงไม้ลงมือกันระหว่าง มหาดเล็กของวังกับทหาร ทหารเขาบอกไม่ผิดแต่ถูกทำโทษฝ่ายเดียว เมื่อทหารเขาคิดว่าไม่ยุติธรรม ก็เอามารวมกับเรื่อง อยากเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้นมาเสียเลย
แต่จะการที่จะทำการใหญ่นั้น ก็ต้องมีวางแผนกัน สถานที่จะวางแผนที่ไม่ให้มีพิรุธ ก็ทำเป็นเอาปืนออกมาแล้วอ้างว่า จะไปล่าสัตว์ ยิงเสือ แล้วที่จะไปยิงเสือนั้นคือ ช่องนนทรี ที่ว่านั้นแหละ
          ไม่ได้มาครั้งเดียว สำหรับการมานั้นคงไม่ได้เดินกันมาเทิ่งๆแน่ เชื่อว่ามาทางเรือ มาจากคลองผดุงกรุงเกษมแล้วมาทะลุที่คลองหัวลำโพง จากคลองหัวลำโพง ก็มีลำรางเล็กๆน้อยๆทั่วช่องนนทรี เรื่องการล่าสัตว์ ยิงเสือในสมัยก่อนนั้น เขาพูดตรงๆโจ่งแจ้งเลยว่ามายิงเสือ ไม่เหมือนสมัยนี้อ้างว่า ไปศึกษาธรรมชาติ แล้วเสือดำมันมาเดินผ่านปืน ปืนเลยลั่น ที่ผมเอาเรื่องยิงเสือมาเล่านั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าสมัยก่อนนั้น ช่องนนทรี ยังเป็นป่าดงพงพีครับ
         
          แต่ที่จริงแล้ว ช่องนนทรีก็น่าจะเคยมีคนอยู่บ้างตามที่ฝรั่งพูด เพราะมีหลักฐานเป็นวัดช่องนนทรี ที่มีพระอุโบสถเป็นแบบสมัยอยุธยาตอนปลายแท้ๆ เป็นพระอุโบสถที่สง่างดงามมาก และไม่ใช่ฝีมือช่างพื้นบ้านแน่ รูปแบบและสัดส่วนทางสถาปัตยกรรมเป็นช่างหลวง แถมยังมีจิตรกรรมฝาผนังงดงามหมดจดอีกต่างหาก แต่ไม่รู้กลเหตุอันได วัดช่องนนทรีร้าง ลองเป็นวัดร้าง ก็ต้องร้างผู้คนไปด้วย เพราะสมัยก่อนนั้น คนมีกระจุกเดียวแล้วจะต้องเกาะผูกติดอยู่กับวัด การปล่อยให้วัดร้างก็หมายถึงไม่มีคนนั่นเอง

          วัดช่องนนทรี มาพบตอนสมัยหลัง คนเยอะแล้ว และนานมากแล้วที่กรมศิลปากรมาขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ซ่อมเสียงดงามอย่างเก่า แต่วัดไม่ชอบของเก่า สร้างพระอุโบสถใหม่ใหญ่โต ฟุ่มเฟือยไปด้วยศิลปะฉิ่งฉับ ว๊อบแว๊บไปด้วยสีทอง เกินงาม ส่วนพระอุโบสถหลังเก่าปล่อยทิ้งให้ขี้หมาเกลื่อนลานกำแพงแก้ว

          แถมใต้ถุนหอฉัน ที่เป็นเรือนไทยโถงนั้น เคยมีเรือ 2 หลักแจว คือแจวหน้า และแจวหลัง มีประทุนเป็นเก๋งไม้ มีหน้าต่าง สำหรับนั่ง เชื่อว่าเป็นของเจ้า ขุน มูล นาย สักคนหนึ่ง เรือนี้ถูกเอามาถวายให้เจ้าอาวาสไว้ใช้ สำหรับไป มา รับนิมนต์ พอเจ้าอาวาสตายไปแล้ว คนใหม่ก็เอาไปเก็บตรงใต้ถุนหอฉัน จอดแช่น้ำครำตรงใต้ถุนนั่นเอง ป่านนี้คงผุเปื่อยไปเรียบร้อยแล้ว

          นั่นเป็นเหตุการณ์ ในยุคหนึ่ง ช่องนนทรี ซึ่งยังไม่จบแค่นี้ ยังมีอีกยุคหนึ่ง ทางด้านที่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อก่อนจะมีโรงสีขนาดใหญ่มาก 3-4 โรงติดๆกัน แล้วมีทางรถไฟขนข้าวเปลือกจากต่างจังหวัดมาลงที่โรงสีนี้ พอสีเสร็จต้องนึ่งก่อน แล้วค่อยเอาลงเรือขนข้าวไปต่างประเทศ เรียกว่าเป็นที่เดียวในกรุงเทพ ที่มีทางรถไฟขนข้าวเปลือกไปจ่อสิ้นสุดอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องบอกว่าสุดจริงๆ เพราะถ้าขบวนรถไฟถูกกระแทกแรงหน่อยเป็นอันตกน้ำ ตรงปลายสุดของรางนั้นชาวบ้านจะเรียกว่าหัวหิน เพราะมีกองหินเป็นกำบังกั้นรางอยู่
          ย้อนเรื่องโรงสี เมื่อมีโรงสีก็ต้องมีคน และคนนั้นก็ต้องเป็นกุลีขนข้าว เมื่อมีกุลีขนข้าวก็ต้องมีโรงยาฝิ่น การสูบยาฝิ่นถูกยกเลิกทั่วประเทศเมื่อ 2505  แต่โรงยาฝิ่นที่ข้างโรงสีช่องนนทรี ยังไม่ถูกรื้อ ปล่อยให้ร้างอยู่นานมาก เพิ่งมารื้อเอาเมื่อไม่กี่สิบปีมานี่เอง ปัจจุบันโรงสีก็ยังอยู่ แต่ไม่ได้ทำอะไรแล้ว สำหรับเขตโรงสีที่ติดกับทางรถไฟนั้นเขาจะกั้นรั้ว ทางรถไฟก็โดดเดี่ยว เหลือแต่รางกับไม้หมอน ผมไม่รู้ว่าการรถไฟในปัจจุบันจะรู้ว่าตัวเองมีทางรถไฟอยู่ที่นั่นหรือเปล่าไม่รู้

          ต่อมาเป็นยุคที่ช่องนนทรี ติดต่อกับโลกภายนอก จะมีถนนนางลิ้นจี่ ชื่อนางลิ้นจี่นั้นคือผู้ที่ยอมให้ตัดถนนในที่ของตัวเอง จากปลายแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านสวน ผ่านทุ่งนา ถนนจะเรียบกับคลองเล็กๆ ที่ลึกเข้ามาถึงสี่แยกอมรในสมัยนี้ ตรงปลายคลองนั้น เป็นโรงเลื่อยไม้ซุงขนาดใหญ่ พอมีทางแยกอมร โรงเลื่อยก็หายไป ซึ่งชาวบ้านสมัยก่อน ยังเรียกว่าแยกโรงเลื่อย

          ถนนนางลิ้นจี่นั้นมาสิ้นสุดเอาตรงที่ทางขวาที่จะออกมาถนนเย็นอากาศ ยังไม่ทะลุไปถึงถนนสวนพลูเหมือนสมัยนี้ ตรงด้านหัวถนนเย็นอากาศนั้น ดั้งเดิมเป็นของทหารเรือ แต่ไม่ได้ทำอะไร ยังให้ชาวบ้านปลูกข้าวอยู่ แล้วไม่ใช่แปลงเล็กๆ ขนาดเป็นทุ่งกว้างเอาทีเดียว ผมว่าคำว่าทุ่งมหาเมฆ น่าจะเป็นทุ่งนี้แหละ

          ถนนนางลิ้นจี่ เป็นถนนดินลูกรัง ออกมาทางถนนเย็นอากาศ ทะลุถนนงามดูพลี ก็เป็นดินลูกรังด้วยเช่นกัน แคบและขรุขระมาก ถนนนั้นมาชนกับคลองหัวลำโพง มีสะพานไม้ข้ามคลอง เพื่อไปชนกับถนนพระรามสี่ ชาวบ้านเรียกว่าสะพานคู่

          มีรถเมล์สายแรกที่วิ่งบนถนนที่ว่านั้น เป็นของกำนันฉัตร นี่ก็ไม่รู้นามสกุลอะไร ชาวบ้านเลยเรียกรถเมล์กำนันฉัตร ตรงส่วนหัวเป็นรถบรรทุกยี่ห้อเชฟโรแล็ต ส่วนตัวถังเป็นไม้ มีที่นั่งสองแถวหันหน้าเข้าหากัน รถเมล์กำนันฉัตรมีสองคัน ต้นทางอยู่ตรงปลายถนนนางลิ้นจี่ตรงช่องนนทรี ไปสิ้นสุดที่ปากประตูทางเข้าสวนลุมพินีตรงถนนวิทยุ รถเมล์คันหนึ่งออกจากช่องนนทรีแล้วไปถึงสวนลุม รถเมล์ที่อยู่ตรงสวนลุมก็จะออกวิ่งย้อนขึ้นมา ถ้าวันไหนฝนตกรถวิ่งไม่ได้หรือติดหล่มหรือรถเสีย ใครจำเป็นเข้าออกต้องเดินลุยดินอย่างเดียว ทั้งถนนไม่ค่อยมีบ้านคนมีแต่ต้นไม้

          ต่อมาถนนนางลิ้นจี่และถนนเย็นอากาศดีขึ้น บนถนนเย็นอากาศมีบ้านมากขึ้นและส่วนใหญ่เป็นบ้านใหญ่ๆคนรวยทั้งนั้น ที่นี่จะมีบ้านไวเซี๊ยะที่ดังมาก นายไวเซี๊ยะนี้เป็นคนจีน ไม่รู้นามสกุลอะไรอีกเหมือนกัน เป็นนักล่องไพร รุ่นเดียวกับหมอบุญส่ง เลขะกุล มาลัย ชูพินิจ ม.ล.ต้อย ชุมสาย

          ที่ว่าบ้านไวเซี๊ยะดังนั้นเพราะเหมือนกับสวนสัตว์ขนาดย่อมๆ มีสัตว์เป็นๆเช่นเสือโคร่ง เสือดาว หมี เก้ง กวาง เลียงผา และสัตว์แปลกๆก็มี พวกงูเหลือมเผือก และนกแปลกๆหลายอย่าง บ้านนี้เปิดให้คนเข้าชม คนที่มาเที่ยวเกือบ 100% เป็นญี่ปุ่นกับคนจีน ซึ่งพวกนี้ไม่ไปเขาดิน แต่มาที่บ้านไวเซี๊ยะแทน

          ตอนนี้คงมาถึงยุคปัจจุบันแล้ว ช่องนนทรีที่ใครๆรู้จักเหมือนเป็นเพียงชื่อหนึ่ง เหมือนชื่อย่านอื่นๆทั่วไป แต่กว่าที่ช่องนนทรีจะมาถึงทุกวันนี้ก็มีผ่านเหตุการณ์มาอย่างโชกโชนไม่แพ้ถิ่นอื่นๆและอาจจะไม่เหมือนใครก็ได้
           
            ผมแถมอีกนิด ตรงทางรถไฟ ขนข้าวเปลือกที่มาลงที่โรงสีริมแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ผมไม่รู้ว่าการรถไฟจะรู้หรือไม่ว่า มีทรัพย์สินอันมีค่าเป็นเพชรบนหัวเรือนแหวน กว้างขวาง จะมีคลองเล็กๆขนานทางรถไฟอยู่ส่วนหนึ่ง วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ฝั่งตรงข้ามเป็นบางกระเจ้า ยังเป็นป่าต้นจากแน่นขนัด เอาเป็นว่าวิวนั้นสวยเด็ดขาด แล้วที่ดินตรงนั้น อยู่ใกล้ถนนพระราม 3 ซึ่งเยื้องกับถนนนรานิวาสราชนครินทร์ อีกนิดเดียวก็ถึงสาธร สีลม เรียกว่าไม่มีใครมีทำเลอย่างนั้นแน่นอน พวกอสังหาริมทรัพย์ถ้ารู้เมื่อไหร่ เป็นได้วิ่งกันตีนขวิด การรถไฟอยากฟื้นจากขาดทุน จากยาจกก็จะเป็นเศรษฐีได้ในพริบตา

          ฉะนั้นช่องนนทรีไม่ใช่ย่อยๆด้วยประการเช่นนี้ ถ้าไม่เล่าเสียครั้งนี้ แล้วเดี๋ยวผมลืมครับ

                                                                                                สุธน สุขพิศิษฐ์




















         




         
                  
                      

                                      
















         




         
                  
                      

ความคิดเห็น

  1. ทดลอง เล่น สล็อต xo ทดสอบ เล่นสล็อต pgslot ไม่ต้องฝาก ก่อนเล่น ไม่ต้องมีบัญชีก็เล่นได้ เหตุเพราะคณะทำงาน XO พวกเราได้จัดเตรียมเกมพิเศษไว้ให้สมาชิกทุกท่านสามารถเล่นได้เงิน

    ตอบลบ
  2. เกม สล็อต roma เล่น ฟรี 100 พวกเราเลยจัดโปรฯ pg slot ที่ใครๆก็ทราบแล้วก็จำเป็นต้องฟินสุดๆไปเลย คุณจะไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจกับสล็อตสไตล์เดียวกันเนื่องจากพวกเราเป็นเกมสล็อต

    ตอบลบ
  3. ไทย สล็อต เกมสล็อต ออนไลน์ ได้เงินจริง สล็อตเว็บไซต์ตรง ไทย สล็อต pg slot ไม่ผ่านเอเย่นต์ เป็นเว็บไซต์ สล็อตออนไลน์ ที่คุณจะเข้ามากำลังได้รับความนิยมเยอะแค่ไหนก็ได้

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ห่านพะโล้-เป็ดพะโล้

ไก่ย่าง

โชห่วย